ขอแนะนำนักศึกษาในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“นายพลวัฒน์ ชัยพิลา” ปัจจุบันเป็นศึกษาอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง
โดยบทความนี้เป็นบทสัมภาษณ์จาก “น้องบาส” นายพลวัฒน์ ชัยพิลา
ถึงที่มาของการเป็นนักศึกษาในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“ก่อนอื่นขอแนะนำตัว ผมนายพลวัฒน์ ชัยพิลา เป็นนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปัจจุบันเป็นนักศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง ตลอดการศึกษากระผมต้องขอขอบพระคุณ ทางเหล่ากาชาดทุกจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการของแต่ละจังหวัดที่คอยดูแลและตรวจเยี่ยมทุก ๆ ปี ตั้งแต่ มัธยมศึกษาปีที่ 1 จนถึง ปริญญาตรี ชั้นปี 4
ผมและครอบครัวรู้สึกปลาบปลื้ม และรู้สึกเป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก เนื่องจากครอบครัวผมก็ไม่ได้มีฐานะอะไรมากมายพ่อกับแม่ผมรับจ้างกรีดยาง ผมก็ต้องตามพ่อกับแม่ไปทุกที่แต่มีสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ไม่ยอมย้ายไปไหนเลยเพราะว่าพ่อกับแม่บอกอยากให้เรียน ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านวังชมภู อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย เพราะเป็นโรงเรียนของสมเด็จพระเทพฯ พ่อแม่และผมมีความรักและผูกพันกับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและคณะครูเป็นอย่างมาก ผมได้ความรู้เรื่องการทำเกษตรพอเพียง ไม่ว่าจะเป็นการทำประมง การเลี้ยงสัตว์ สำหรับการเรียนและการใช้ชีวิต ผมเป็นคนที่ตั้งใจเรียนมากและจะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ในส่วนของการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ผมได้เป็นตัวแทนไปแข่งอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์เป็นตัวแทนเขตพื้นที่การศึกษาไปแข่งที่กรุงเทพฯ ส่วนด้านกิจกรรมต่าง ๆ ผมเคยเป็นนักกีฬาเซปักตะกร้อ เคยได้เป็นตัวแทนโรงเรียนเหมืองแบ่งวิทยาคม จังหวัดเลย ไปแข่งขันในระดับจังหวัดเลย ต่อมาผมได้ย้ายไปเรียนที่ โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผมเอง ผมได้ขอแม่ไปอยู่บ้านคนเดียว ผมได้ใช้ชีวิตคนเดียวทำกับข้าวเอง ปลูกผัก รีดผ้าเอง จากที่ผมเคยสบายมีแม่ทำให้ทุกอย่างแต่ผมมารู้ทีหลังว่าสิ่งเหล่านั้น ทำให้ผมได้รู้ว่าชีวิตจริงมันยากและเราต้องเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตที่เราเป็นอยู่ให้ได้ ทำให้ผมคิดที่อยากจะรวย อยากจะมีเหมือนคนอื่น อยากเรียนพิเศษ อยากเก่งมากกว่านี้เพราะผมอยากให้พ่อแม่สบาย ผมไม่อยากขอเงินพ่อกับแม่อีกเพราะผมรู้แล้วว่าเงินมันหายาก ณ ตอนนั้น ผมก็พยายามทำธุรกิจต่าง ๆ เริ่มจากปลูกหน่อไม้ฝรั่งขาย ผมกรอกดินเอง เพาะกล้าเองประมาณ 3,000 ถุง ผมใช้เวลาหลังจากการอ่านหนังสือและทำการบ้านเสร็จมาทำในส่วนนี้ ผมก็ได้เงินเก็บมาก้อนหนึ่ง และผมก็นำเงินไปซื้อพันธุ์มะนาวมาปลูก จนพ่อกับแม่มาเห็น ซึ่งแน่นอนพ่อแม่ทุกท่าน ไม่มีใครอยากให้ลูกลำบาก พ่อกับแม่ผม บอกให้ผมไม่ต้องทำ ให้ตั้งใจเรียนแต่ตอนนั้นผมเข้าใจแล้วว่าชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่การเรียนเราสามารถทำมันควบคู่ไปได้ ผมก็ต้องยอม ร้องไห้ทั้งที่ยังขุดดินปลูกมะนาว น้ำตาไหลมองแทบไม่เห็นอะไรเลย ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครครับ และสุดท้ายผมก็ทำมันสำเร็จ ปลูกมะนาวคนเดียว 20 ต้น ลงทุนไป 6,000 บาท ตอนนี้ผมก็ให้คนในหมู่บ้านเก็บฟรี ๆ และต่อมาผมก็ลองสั่งสาหร่ายม้วนมาขายโดยใช้ชื่อยี่ห้อตัวเอง ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งเอง ผมยอมรับว่าผมอายมากเลยครับ ตอนนั้นโดนปฏิเสธ เด็กแค่นี้อะไรมาส่งของ ผมไม่เชื่อเอ็งหรอก แต่ก็มีบางร้านที่ใจดีสงสารผมช่วยอุดหนุน สำหรับธุรกิจนี้ผมก็เลิกไปเพราะผมไม่ค่อยมีเวลาและเหนื่อยมาก ๆ ช่วงนั้นผมศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก็เริ่มอ่านหนังสือ นั่งรถบัสไปติวที่ขอนแก่นโรงเรียนกวดวิชาชื่อดังแห่งหนึ่ง ยอมรับว่าลำบากและเหนื่อยมาก ไปขอพักกับญาติผมก็เกรงใจเขามาก ๆ แต่เพื่ออนาคตผมก็จำเป็นต้องทำ วันนั้นผมก็รู้ตัวเองว่าอยากเป็นวิศวกรเพราะผมหวังว่าจะได้เงินเดือนสูง ๆ ไปเลี้ยงพ่อแม่ในอนาคต จนผมจบ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ผมก็สอบติด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่ระยอง ผมสอบที่เดียวและไม่สอบที่ไหนอีกเลยเพราะว่าใกล้อุตสาหกรรมหลัก ๆ ของประเทศไทย ระหว่างที่ผมปิดเทอมและรอมหาวิทยาลัยเปิด ผมก็ได้รับเสื้อผ้าไปขายที่ตลาดนัด ก็พอได้เป็นค่ากับข้าว และมาลองใช้ชีวิตที่ระยองมาทำงาน 7-11 ได้ 1 เดือน หลังจากนั้นผมก็ได้เข้าไปเรียน ผมก็คิดว่าผมด้อยกว่าคนอื่นแน่ ๆ แค่เด็กบ้านนอก ผมก็อ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนจนทุกคนเพื่อน ๆ ก็งง ว่าผมทำอะไร อ่านอะไรนักหนา เนื่องจากความกลัว กลัวเรียนไม่จบ กลัวติด F กลัวพ่อแม่ผิดหวัง กลัวคนดูถูกพ่อกับแม่ แต่สุดท้ายเมื่อคะแนน ประกาศ ผมได้คะแนนคณิตศาสตร์สูงที่สุดของคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งตอนนั้นผมน้ำตาไหลและโทรไปบอกพ่อว่าผมทำได้แล้วผมอยู่ได้ พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ปัจจุบันพ่อกับแม่ก็ยังไม่เคยมาส่งผมเลย ผมมาเองทุกครั้ง สาเหตุที่ผมไม่ให้พ่อกับแม่มาเพราะผมเป็นห่วงเรื่องการเดินทาง จริง ๆ ท่านก็อยากมาส่ง จากนั้นผมก็พยายามเรียนมาเรื่อยๆ แต่ผมก็แอบทำธุรกิจเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะผมทำมันสำเร็จ ผมขายไก่ดำออนไลน์ ชื่อเพจว่า “ไก่ดำพันธุ์แท้ ไม่ผสม” ตอนแรกพ่อก็ไม่เชื่อผมว่าผมทำได้ พ่อบอกจะเอาเงินมายังไง ไก่จากที่ไหนแต่คือ ผมเป็นตลาดกลาง ที่ทำให้คนซื้อกับคนขายมาเจอกันและได้กระจายรายได้ให้เกษตรกร จนวันนี้ผมมีฟาร์มเป็นของตัวเอง เป็นที่ยอมรับในสายอาชีพนี้ จนตอนนี้ผมไม่ได้ขอเงินแม่มา 2 ปี และผมก็ส่งเงินให้พ่อกับแม่ ตามที่ผมคิดและวาดฝันไว้ ถึงแม้พ่อกับแม่ไม่เคยสนับสนุนเลยแต่ผมเข้าใจว่าพ่อกับแม่ผมไม่อยากให้ผมลำบากเหมือนเขา แต่ผมก็อยากทำให้พ่อกับแม่ได้ใช้เงินที่ผมหาเองเร็ว ๆ ด้วยความดื้อของผม จนทำให้มีวันนี้ ผมได้มีโอกาสไปสอนน้อง ๆ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กขอให้ผมไปสอนพิเศษจำนวน 12 คน ที่อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย โดยที่ผมไม่เก็บค่าเล่าเรียนใด ๆ เพื่อเป็นการทดแทนที่พระองค์ฯทรงมอบโอกาสให้ผมได้มีวันนี้ และอีกหนึ่งกิจกรรมล่าสุดที่ทำในรั้วมหาวิทยาลัย ค่ายพะเยารอเธอ จำนวน 14 วัน ที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือจัดขึ้น ผมได้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ให้แก่น้อง ๆ ที่อยู่ห่างไกล ที่โรงเรียนบ้านต้นผึ้ง ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ กิจกรรมค่ายอาสาแปดริ้วหิ้วสีหนีระยอง เป็นเวลา 3วัน ได้มีการทาสีรั้วและตกแต่งผนังอาคารเรียน สำหรับการทำค่ายอาสาผมคิดว่าทำให้สามารถยกระดับจิตใจและยังสร้างมิตรภาพที่ดี ได้รู้จักการเป็นผู้นำและผู้ตามเพื่อที่จะให้งานสำเร็จ ตามความตั้งใจของทุกท่านที่เข้ามาทำค่ายอาสา
สำหรับผมอีกหนึ่งเทอมผมก็จะจบแล้วในเดือนมีนาคมนี้ ผมก็ถือโอกาสขอบพระคุณ ท่านผู้ใหญ่ คุณอาชัชวาลย์ นัยเรืองรุ่ง คุณอาอุบลรัตน์ มันฤกษ์ (อาเหนียง) คุณอาแดง คุณอาปุ๋ย และอีกหลายท่านที่เคยดูแลผมและเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ๆ ที่คอยดูแลให้คำแนะนำผม ตลอดเวลาทุก ๆเรื่องที่ทำให้คุณอาไม่สบายใจกระผมขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ และผมสัญญาจะทำแต่ความดีเป็นตัวอย่างที่ดี เพื่อพระองค์ฯท่านครับ”
ทั้งนี้ “น้องบาส” ยังบอกอีกว่า…”สำหรับคุณสมบัตินักเรียนทุนฯ ต้องเป็นนักเรียนที่เคยเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและต้องมีผลการเรียนที่ดี โดยจะคัดเลือกนักเรียนไปสอบชิงทุนในกองกำกับของตำรวจตระเวนชายแดน ที่สังกัดของแต่ละกองกำกับ โดยการสอบจะสอบในช่วงที่นักเรียนจบจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และจะมีการรับนักเรียนในพระราชานุเคราะห์จำนวน 200 กว่าทุนทั่วประเทศ”
สำหรับน้องๆที่สนใจ “น้องบาส” ก็ได้ฝากลิงค์ข้อมูลมาท้ายบทสัมภาษณ์นี้ด้วยคะ
http://www.psproject.org/ProjectsB.htm